ทุกๆ ท่านเคยได้ยินหรือได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องราวของ “เวลาโพล้เพล้” ที่เป็นเวลาที่มีตำนานความเชื่อที่เกี่ยวข้องในหลายๆ ด้านเลยหล่ะครับ วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้กันครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาเราไปชมกันดีกว่าครับ
ช่วงเวลา โพล้เพล้ หรือ เวลาพลบค่ำ
เวลาโพล้เพล้หรือผีตากผ้าอ้อม คือชื่อที่คนไทยสมัยก่อนใช้เรียกช่วงเวลาโพล้เพล้ ใกล้พระอาทิตย์ตกดิน หรือประมาณ 16.00-18.00 น. ที่มาของชื่อ ‘ผีตากผ้าอ้อม’ บางคนก็บอกว่าเกิดจากท้องฟ้าที่เป็นสีแดงอมส้มเหลือง เหมือนกับเอาผ้าอ้อมไปตาก ในขณะที่บางคนก็บอกว่าเป็นความเชื่อเกี่ยวกับช่วงเวลาเย็น ๆ แดดร่มลมตกที่ภูติผีวิญญาณจะนำผ้าอ้อมของลูกออกมาตาก เนื่องจากตามความเชื่อโบราณ ว่ากันว่าเป็นช่วงเวลาที่เชื่อมต่อกันระหว่างโลกมนุษย์กับโลกที่สาม เหล่าวิญญาณ ภูติผีปีศาจ และมนุษย์ อาจจะวนเวียนอยู่ในสถานที่เดียวกัน จึงมีความเชื่อสืบต่อมาว่าเมื่อเรานอนในช่วงนี้ วิญญาณของเราที่อาจจะหลุดออกจากร่างในขณะหลับ อาจจะไปพบกับวิญญาณที่ผ่านไปมาในช่วงนั้นก็เป็นได้
เวลาโพล้เพล้คือกี่โมงกันนะ
ไม่ว่าจะเป็นแสงโพล้เพล้ แสงพลบค่ำ หรือแสงสนธยา เกิดขึ้น ช่วงระยะเวลาของ ผีตากผ้าอ้อม อยู่ที่ประมาณ 4โมงเย็น ถึง 6 โมงเย็น นั้นเองครับ
เวลาที่เราไม่ควรจะนอนกลางวันมากที่สุด
ไม่ควรนอนหลังจากเวลาบ่าย 3 โมง เพราะอาจทำให้ความอยากนอนในช่วงเวลากลางคืนลดลงได้ ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการนอนกลางวัน คือ ช่วงเวลาบ่าย 2 หรือบ่าย 3 โมง เพราะเป็นช่วงที่คนมักรู้สึกง่วงหลังจากรับประทานอาหารกลางวันและมีความตื่นตัวลดลง รวมทั้งการนอนหลับในช่วงเวลานี้จะรบกวนการนอนหลับในช่วงเวลากลางคืนได้น้อย
5 เรื่องราวลี้ลับที่เป็นกุสโลบายของคนสมัยก่อน
- เสียงเรียกปริศนายามค่ำคืน สมัยก่อน(หรือสมัยนี้) เชื่อว่าถ้ามีเสียงคนเรียกตอนกลางคืนอย่าขานรับ เพราะเป็นเสียงของดวงวิญญาณ และถ้าหากตอบรับจะเหมือนเป็นการอนุญาตให้ดวงวิญญาณเหล่านั้นเข้ามาในบ้าน บางทีก็จะเข้ามาทำร้ายคนในครอบครัวได้!! แต่จริงๆแล้วอาจจะเป็นการสอนมารยาทก็เป็นได้
- อย่าให้ของขวัญใครเป็นผ้าเช็ดหน้า คงได้ยินคำเตือนนี้กันบ่อยๆ และคงไม่เคยมีใครได้รับของขวัญเป็นผ้าเช็ดหน้ากันใช่มั้ยคะ? นั่นเป็นเพราะความเชื่อที่ว่าหากซื้อผ้าเช็ดหน้าให้คนรัก เพื่อนสนิท จะเป็นลางไม่ดี ทำให้เกิดเหตุจากลา ร้องไห้และใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้มาเช็ดน้ำตา!!
- คนที่เกิดมามีปาน ความเชื่อนี้ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ ว่าคนที่เกิดมามีปานจะเคยเกิดมาแล้วในชาติก่อนๆรึเปล่า ที่ก่อนตายครอบครัว หรือคนรักได้ทำการสร้างตำหนิไว้ โดยการนำเอาปูนแดง หรือถ่าน มาป้ายตามตัวเพื่อให้เห็นได้ชัด
- ห้ามตัดเล็บตอนกลางคืน จริงๆเราก็น่าจะรู้เหตุผลที่แท้จริงอยู่แล้วว่าทำไมผู้ใหญ่เค้าถึงห้ามตัดเล็บตอนกลางคืน อาจจะไม่ใช่เพราะกลัววิญญาณบรรพบุรุษทั้งหลายจะไม่สงบสุขแบบที่คนโบราณเชื่อกันหรอก แต่น่าจะเป็นเพราะกลัวเราจะตัดนิ้วตัวเองจนเกิดการบาดเจ็บได้
- หอย่าเคาะจานข้าว เชื่อเลยว่าข้อนี้หลายๆคนคงเคยได้ยินกันบ่อยๆเมื่อตอนยังเป็นเด็ก และเห็นการเคาะจาน ชามเป็นเรื่องสนุก แต่พอผู้ใหญ่บอกว่าถ้าเคาะแล้วจะเป็นการเรียกผี สางทั้งหลายให้มากินข้าวเท่านั้นแหละ โต๊ะก็เงียบลงอย่างไม่ต้องสงสัย ไอ้เรื่องของผี สาง เนี่ยเราจะไม่พูดถึง แต่ที่แน่ๆผู้ใหญ่คงไม่ต้องหนวกหูเพราะเสียงเคาะนั้นเองครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “เวลาโพล้เพล้”” ที่พวกเราได้รวบรวมมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้นนี้ คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจกันนะครับ